แนวโน้มใหม่ของคนยุคใหม่: เลือกเช่าบ้านมากกว่าซื้อบ้าน สะท้อนวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง
ในยุคที่การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของคนทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเลือกที่อยู่อาศัยของคนยุคใหม่ก็ไม่ต่างกัน จากการสำรวจล่าสุดพบว่า คนรุ่นใหม่จำนวนมากเริ่มให้ความสำคัญกับการเช่าบ้านมากกว่าการซื้อบ้าน ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
ปัจจัยหลักที่ทำให้การเช่าบ้านเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้น คือ ความยืดหยุ่น และ การลดภาระทางการเงิน สำหรับคนรุ่นใหม่ การเช่าบ้านทำให้พวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยได้ตามสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายงาน การเปลี่ยนแปลงในชีวิตส่วนตัว หรือการต้องการสำรวจพื้นที่ใหม่ๆ โดยไม่ต้องผูกพันกับหนี้สินระยะยาว
อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือ ราคาที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ การซื้อบ้านต้องใช้เงินดาวน์และการผ่อนชำระในระยะยาวที่หลายคนมองว่าเป็นภาระหนักเกินไป เมื่อเปรียบเทียบกับการเช่าบ้านที่มีค่าใช้จ่ายในระยะสั้นและไม่มีความเสี่ยงในการต้องรับภาระหนี้สิน
นอกจากนี้ วิถีชีวิตแบบ Remote Work ที่กำลังเป็นที่นิยมหลังจากสถานการณ์โควิด-19 ได้กระตุ้นให้คนเลือกที่จะเช่าบ้านในพื้นที่ที่ห่างไกลจากศูนย์กลางเมือง หรือเลือกเช่าบ้านที่มีธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า ซึ่งไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ใกล้กับที่ทำงานอีกต่อไป
ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ยังชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มการเช่าบ้านระยะยาวกำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองว่าการเช่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการซื้อ เนื่องจากสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น และไม่ต้องรับภาระในการดูแลและบำรุงรักษาบ้านในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะเช่าหรือซื้อบ้านยังคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละบุคคล แต่แน่นอนว่าแนวโน้มการเช่าบ้านในยุคใหม่นี้จะมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ซึ่งผู้ประกอบการควรจับตามองแล
แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แนวโน้มหลักๆ ในปัจจุบันและอนาคตอาจสรุปได้ดังนี้
- การฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด-19 การระบาดของโควิด-19 ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวลง แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ความต้องการในตลาดที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์เริ่มกลับมา
- การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการทำงานและการอยู่อาศัย การทำงานแบบ Remote Work และ Hybrid Work ทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยนอกเมืองเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดี ขณะเดียวกันสำนักงานในเมืองก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับการใช้งานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
- การเพิ่มขึ้นของโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน นักลงทุนเริ่มมองหาอสังหาริมทรัพย์เป็นทางเลือกในการลงทุน โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น EEC (Eastern Economic Corridor)
- การพัฒนาสมาร์ทซิตี้และโครงการเขียว แนวโน้มการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีการใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการเพิ่มขึ้น โครงการสมาร์ทซิตี้ที่มีการเชื่อมโยงเทคโนโลยีและความยั่งยืนเป็นที่สนใจของนักลงทุนและผู้บริโภคมากขึ้น
- การเข้ามาของผู้ประกอบการต่างชาติ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต่างชาติยังคงสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เนื่องจากศักยภาพของตลาด โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ เช่น ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่
- กฎระเบียบและนโยบายของรัฐบาล นโยบายรัฐบาล เช่น การลดภาษีอสังหาริมทรัพย์ การส่งเสริมการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และการจัดการหนี้ครัวเรือน มีผลโดยตรงต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในแง่ของความต้องการซื้อขายและการพัฒนาโครงการใหม่ๆ
- ความต้องการที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับกลาง-ล่างยังคงเป็นที่ต้องการสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการสร้างที่อยู่อาศัยในกลุ่มนี้
แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนถึงการปรับตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคต