การเติบโตของ GDP ของประเทศในอาเซียน
ในปี 2567 การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3.2% ถึง 3.8% ซึ่งถือว่าการเติบโตยังคงเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงกว่า ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของ GDP เฉลี่ยประมาณ 4.5%
- ฟิลิปปินส์ 5.7%
- เวียดนาม 5.66%
- อินโดนีเซีย 5.1%
- มาเลเซีย 4.2%
- สิงคโปร์ 2.7%
- ไทย 1.5%
การเติบโตของ GDP ของประเทศไทยถูกขับเคลื่อนโดยการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนจากภาคเอกชน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายจากหนี้ครัวเรือนที่สูงและการฟื้นตัวที่ช้าในภาคการท่องเที่ยว
GDP คืออะไร
GDP หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product) คือ มูลค่ารวมของสินค้าหรือบริการที่ผลิตขึ้นภายในประเทศหนึ่งในช่วงเวลาที่กำหนด (ปกติมักจะใช้ต่อปีหรือรายไตรมาส) โดย GDP เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ใช้ในการประเมินสภาพเศรษฐกิจของประเทศหนึ่ง ๆ
การคำนวณ GDP มีหลายวิธี แต่ที่นิยมใช้มากที่สุดคือการคำนวณโดยวิธีรายจ่าย (Expenditure Approach) ซึ่งประกอบไปด้วย:
- การบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption): ค่าใช้จ่ายของครัวเรือนในสินค้าบริโภคและบริการต่าง ๆ
- การลงทุนภาคเอกชน (Private Investment): ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรและสต็อกสินค้า
- การใช้จ่ายของรัฐบาล (Government Spending): ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการซื้อสินค้าและบริการ
- การส่งออกสุทธิ (Net Exports): มูลค่าของสินค้าส่งออกลบด้วยมูลค่าของสินค้านำเข้า
GDP จึงเป็นตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงความสามารถในการผลิตและบริโภคภายในประเทศ ซึ่งสามารถใช้ในการเปรียบเทียบกับ GDP ของประเทศอื่น ๆ หรือใช้วิเคราะห์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้