กาแฟแต่ละเมนู ใส่อะไรบ้าง
กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและมีประวัติยาวนานถึงพันปี ต้นกำเนิดของกาแฟเชื่อมโยงกับหลายวัฒนธรรมและภูมิภาค ต่อไปนี้คือเรื่องราวความเป็นมาของกาแฟ:
ต้นกำเนิดของกาแฟ
ต้นกำเนิดของกาแฟมีตำนานที่เล่าขานกันว่าเกิดขึ้นใน ประเทศเอธิโอเปีย ในแถบภูเขาเขียวชอุ่มของแอฟริกาตะวันออก เรื่องราวที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือเรื่องของ คาลดี (Kaldi) คนเลี้ยงแพะในศตวรรษที่ 9 ซึ่งสังเกตเห็นว่าแพะของเขามีพลังงานและกระปรี้กระเปร่าหลังจากกินผลเบอร์รี่สีแดงจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง คาลดีลองกินผลเบอร์รี่เหล่านั้นและพบว่ามันทำให้เขารู้สึกตื่นตัวและมีพลัง
เมื่อเขานำผลเบอร์รี่นี้ไปให้กับนักบวชในท้องถิ่น นักบวชลองทำเป็นเครื่องดื่มและพบว่ามันช่วยให้เขาตื่นตัวระหว่างการสวดมนต์ยามค่ำคืน ต่อมากาแฟก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วเอธิโอเปียและบริเวณใกล้เคียง
การแพร่กระจายของกาแฟ
- สู่ตะวันออกกลาง กาแฟถูกนำเข้ามาใน อาระเบีย ในช่วงศตวรรษที่ 15 โดยเฉพาะที่เมืองท่าของ โมคา (Mocha) ในประเทศเยเมน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้ากาแฟที่สำคัญ การคั่วและบดเมล็ดกาแฟเพื่อทำเป็นเครื่องดื่มเริ่มมีการพัฒนาขึ้นในช่วงนี้ เครื่องดื่มนี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่ชาวมุสลิมเพราะกาแฟช่วยให้ตื่นตัวในระหว่างการสวดมนต์
- สู่ยุโรป กาแฟถูกนำเข้าสู่ยุโรปผ่านทางเวนิสในศตวรรษที่ 17 และได้รับความนิยมในเมืองต่าง ๆ ทั่วทั้งยุโรป กาแฟเป็นที่รู้จักในหมู่นักวิชาการ นักการเมือง และศิลปิน ซึ่งมักจะนัดพบกันในร้านกาแฟเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญทางสังคมและการเมือง ร้านกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปคือ Café Procope ในกรุงปารีส ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1686
- สู่เอเชียและโลกใหม่ กาแฟแพร่กระจายไปยังอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยผ่านพ่อค้าชาวอาหรับและยุโรป ในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 ดัตช์เป็นผู้เริ่มปลูกกาแฟในอินโดนีเซีย และในช่วงเวลาเดียวกันกาแฟก็เริ่มปลูกในทวีปอเมริกาใต้และแคริบเบียนเช่นกัน โดยประเทศบราซิลกลายเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลกตั้งแต่นั้นมา
ความสำคัญและวัฒนธรรมกาแฟ
- ด้านเศรษฐกิจ: กาแฟกลายเป็นสินค้าการค้าสำคัญระดับโลกในช่วงศตวรรษที่ 19 และ 20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการปลูกกาแฟ เช่น บราซิล โคลอมเบีย และเอธิโอเปีย
- ด้านสังคม: กาแฟไม่เพียงเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้ตื่นตัว แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมการพบปะสนทนา ร้านกาแฟเป็นสถานที่ที่ผู้คนมาพบปะแลกเปลี่ยนความคิด และยังมีบทบาทในการสนทนาทางสังคมและการเมืองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
- ด้านวัฒนธรรม: หลายประเทศมีวัฒนธรรมกาแฟเฉพาะของตน เช่น วัฒนธรรม อาราบิก้า ในเอธิโอเปีย หรือ กาแฟตุรกี ที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยวิธีการชงกาแฟและดื่มกาแฟมีความหลากหลายไปตามภูมิภาคต่าง ๆ
กาแฟมีต้นกำเนิดจากเอธิโอเปียและแพร่กระจายไปทั่วโลกผ่านทางอาระเบียและยุโรป มันกลายเป็นเครื่องดื่มที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะในด้านการเมือง สังคม หรือการพบปะสังสรรค์
กาแฟแต่ละเมนู ใส่อะไรบ้าง
กาแฟแต่ละชนิดมีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสัดส่วนของเอสเปรสโซ นม และวิธีการเตรียม ต่อไปนี้คือความแตกต่างของกาแฟยอดนิยม เช่น Espresso, Latte, Cappuccino:
- Espresso
- ส่วนประกอบ: เป็นกาแฟเข้มข้นที่เกิดจากการใช้น้ำร้อนที่ความดันสูงอัดผ่านผงกาแฟบดละเอียด
- ลักษณะ: มีปริมาณเล็กน้อย (ประมาณ 30 มิลลิลิตร) เสิร์ฟในถ้วยเล็ก รสชาติเข้มข้นและขม
- รสชาติ: เข้มข้น กลิ่นหอมเด่น เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟรสชาติเข้มและดื่มเป็นช็อต
- Latte
- ส่วนประกอบ: เอสเปรสโซ + นมร้อน + โฟมนมบาง ๆ บนผิวหน้า
- ลักษณะ: ลาเต้มีนมเป็นส่วนผสมหลัก (ประมาณ 2/3 ส่วน) จึงมีความละมุนและรสนมนุ่มนวล เสิร์ฟในแก้วขนาดใหญ่
- รสชาติ: รสนมเด่นชัด กลมกล่อม เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟที่ไม่เข้มมาก
- Cappuccino
- ส่วนประกอบ: เอสเปรสโซ + นมร้อน + โฟมนมหนา
- ลักษณะ: มีโฟมนมหนาบนสุด ทำให้มีเนื้อสัมผัสที่ฟูและครีมมี่ ส่วนกาแฟและนมมีสัดส่วนเท่า ๆ กัน
- รสชาติ: เข้มข้นกว่าลาเต้เพราะมีนมน้อยกว่า โฟมนมช่วยลดความขมของกาแฟ
- Flat White
- ส่วนประกอบ: เอสเปรสโซ + นมร้อน
- ลักษณะ: คล้ายลาเต้ แต่จะใช้นมที่มีฟองบางกว่าและไม่มีโฟมหนา
- รสชาติ: รสกาแฟชัดเจนกว่าเพราะมีปริมาณนมน้อยกว่า เหมาะกับคนที่ต้องการรสกาแฟเด่น แต่ยังชอบนม
- Macchiato
- ส่วนประกอบ: เอสเปรสโซ + โฟมนมเล็กน้อย
- ลักษณะ: เอสเปรสโซที่แต้มด้วยโฟมนมเพียงเล็กน้อย
- รสชาติ: เข้มข้นมาก มีรสขมชัดเจนของเอสเปรสโซ โฟมนมเพิ่มความนุ่มนวลเพียงเล็กน้อย
- Mocha
- ส่วนประกอบ: เอสเปรสโซ + นมร้อน + ช็อกโกแลต
- ลักษณะ: คล้ายลาเต้ แต่มีการเพิ่มช็อกโกแลต ทำให้มอคคามีความหวานและเข้มข้นจากช็อกโกแลต
- รสชาติ: หวานและหอมของช็อกโกแลต เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟที่มีรสหวานนุ่มนวล
- Americano
- ส่วนประกอบ: เอสเปรสโซ + น้ำร้อน
- ลักษณะ: อเมริกาโน่จะเป็นกาแฟดำที่เจือจางจากการเติมน้ำร้อนเข้าไป แต่ยังคงความเข้มของเอสเปรสโซ
- รสชาติ: รสชาติเข้มแต่ไม่หนักเท่ากับการดื่มเอสเปรสโซเพียว ๆ เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟดำ
ความแตกต่างของกาแฟแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับการผสมระหว่างเอสเปรสโซและนม ซึ่งส่งผลต่อรสชาติและเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย